เก้าอี้นวดไฟฟ้า 3D และ 4D ต่างกันอย่างไร?

เคยสงสัยกันไหมคะ เวลาที่เรามองหาเก้าอี้นวดไฟฟ้า มักจะพบคำว่า 3D และ 4D บ่อยที่สุด?

เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ เก้าอี้นวดและฟังก์ชันการใช้งานก็พัฒนาขึ้นมาเช่นกัน ในตอนแรกมีเพียงเก้าอี้นวด 2D หลังจากนั้นไม่นาน เก้าอี้นวด 3D ก็กลายเป็นเก้าอี้นวดที่ขายดีที่สุด นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมเก้าอี้นวด และมาถึงปัจจุบันที่มีเก้าอี้นวด 4D ที่ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ออกมาให้ได้ใช้กันนั่นเองค่ะ

 ''เก้าอี้นวดตัวแรกในโลกที่ผลิตขึ้นมีชื่อว่า "Inamasa Bannou Kougeisha"  ซึ่งผลิตโดยแบรนด์ที่เรารู้จักในปัจจุบันในชื่อ ''Family Inada'' เมื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการแนะนำเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ใน บ้านเพื่อช่วยให้ครอบครัวได้ผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน ใช้ระบบรอกเพื่อเลื่อนจุดนวดขึ้นลง  จึงทำให้เป็นเก้าอี้นวด 1D เนื่องจากจะเลื่อนขึ้นลงเท่านั้น และนี่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของเก้าอี้นวดไฟฟ้า...''

ก่อนที่เราจะไปรู้จักเก้าอี้นวด 3D และ 4D มาเริ่มที่เก้าอี้นวด 2D กันก่อนนะคะ เพื่อจะช่วยให้เข้าใจต้นกำเนิดของเก้าอี้นวดไฟฟ้าค่ะ

เก้าอี้นวด 2D ?
เก้าอี้นวด 2D เป็นเก้าอี้นวดรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด ลูกกลิ้งนวดจะเคลื่อนที่ในรูปแบบ 2 มิติ นั่นคือลูกกลิ้งจะยึดติดกับระนาบ X และ Y โดยจะเลื่อนขึ้น-ลงจากคอไปจนถึงหลังส่วนล่าง ถือเป็นเก้าอี้นวดที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนั้นเลยค่ะ เพราะเป็นเก้าอี้นวดที่ใช้งานง่ายและธรรมดาที่สุดในตลาด ที่สำคัญราคาไม่สูงมากอีกด้วย!

เก้าอี้นวด 3 มิติ ?
เก้าอี้นวดสามมิติได้เพิ่มมิติให้กับรุ่นก่อนมากขึ้น การทำงานของลูกกลิ้ง 3D  นอกจากลูกกลิ้งจะเคลื่อน ขึ้น-ลง / ซ้าย-ขวาแล้ว ได้ถูกพัฒนาให้มีความเข้มข้นในการนวดเพิ่มมา หรือใช้คำง่ายๆก็คือ ''ความลึก'' ของลูกกลิ้งนั่นเองค่ะ สามารถนวดกดลงไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้ โดยระบบการทำงานนี้เป็นการเลียนแบบของมือมนุษย์ สามารถปรับความเข้มเพื่อให้การนวดเบาหรือแรงตามความต้องการได้ เทคโนโลยี 3D พบได้ในเก้าอี้นวดระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้นมาอีกระดับนึง และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าเก้าอี้ 2D ก็ตาม แต่ผู้คนก็นิยมที่จะใช้กัน

เก้าอี้นวด 4D ?
ความก้าวหน้าล่าสุดของเทคโนโลยีเก้าอี้นวดคือ เก้าอี้นวด 4D ที่มีฟังก์ชันทั้งหมดเหมือนกับเก้าอี้นวด 3D โดยมีข้อดีเพิ่มเติมคือ ''การปรับความเร็ว'' ลูกกลิ้งนวด 4D สามารถขึ้น-ลง เคียงข้างกันกลับไปกลับมา และสามารถปรับความเร็วได้เช่นกัน ลูกกลิ้งนวด 4D สามารถมอบประสบการณ์ที่แม่นยำในการนวดยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ลูกกลิ้ง 4D เหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นตลอดทั้งการนวด โดยการหมุนลูกกลิ้งไปในทิศทางต่าง ๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายบริเวณเฉพาะของร่างกาย

คำว่า 4D ถูกใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อพูดถึงความสามารถในการเพิ่มความเร็วและลดความเร็วของลูกกลิ้ง ให้ประสบการณ์การนวดที่สมจริงมากกว่า 3D และมากกว่าการผ่อนคลายขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นเก้าอี้นวด 4D สามารถนวดได้ ครอบคลุมได้มากกว่า 3D อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องคุณสมบัติพิเศษในการบำบัดอีกด้วย บรรเทาและคลาย กล้ามเนื้อที่เจ็บให้ดีขึ้น ช่วยบรรเทาและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ  

เก้าอี้นวด 4D อาจเป็นหัวข้อที่สร้างความสับสนให้กับลูกค้า เนื่องจากบางคนเชื่อว่าโมเดล 3D และโมเดล  4D มีประโยชน์เหมือนกัน แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้น ในการนวด 4 มิติ ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น ซึ่ง หมายความว่าผู้ใช้สามารถปรับแต่งเซสชั่นการนวดของตนได้ ลูกกลิ้งสามารถเพิ่มความเร็วหรือลดความเร็วลงได้โดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เก้าอี้นวด 4D  บางรุ่นมีระบบสแกนร่างกายอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องปรับรีโมทด้วยตนเอง นั่นคือข้อแตกต่างระหว่างคือเก้าอี้นวด 3D และ 4D

สรุป เก้าอี้นวด 3D กับ เก้าอี้นวด 4D อันไหนดีกว่ากัน?
หากคุณต้องการเก้าอี้นวดที่มีการนวดแบบเข้มข้นสูงเพื่อการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด ควรเลือกเก้าอี้นวด 3D แต่ในทางกลับกันหากคุณต้องการนวดแบบฟังก์ชันครบครันและมากด้วยประสบการณ์การนวดที่สมจริงที่สุด ควรซื้อเก้าอี้นวด 4D

ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อควรศึกษาและดูความต้องการของคุณ ซึ่งจากบทความข้างต้นนั้น จะเห็นว่าทั้งเก้าอี้นวด 3D และ 4D มีความแตกต่างกันพอสมควร แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ''ราคา'' หากคุณมีงบประมาณมากพอสำหรับเก้าอี้ 4D ก็คุ้มค่ากับการลงทุนเพราะจะช่วยให้ได้รับประสบการณ์การนวดที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากงบประมาณไม่มากพอ เก้าอี้ 3D ก็สามารถมอบประสบการณ์การนวดให้ได้ดีเยี่ยมเช่นกันนะคะ


หวังว่าบทความนี้ จะช่วยคลายความสงสัยความแตกต่างระหว่างเก้าอี้นวด 3D และ เก้าอี้นวด 4D  ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านได้นะคะ

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ ที่นี่