ความร้อนบำบัด

       การบำบัดด้วยความร้อน เป็นการเพิ่มอุณหภูมิเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยใช้วัสดุที่เหมาะสมเป็นตัวถ่ายเทความร้อน เพื่อช่วยบรรเทาลดอาการปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนมากนั้นจะถูกนำมาใช้กับการนวดต่าง ๆ เมื่อในสมัยอดีต จะใช้การนวดร้อนด้วยลูกประคบเพื่อช่วยในการรักษาต่าง ๆ จนถึงยุคปัจจุบันที่ถูกนำมาปรับใช้กับเครื่องนวดไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้า หรืออุปกรณ์นวดไฟฟ้าต่าง ๆ

ประเภทของการบำบัดด้วยความร้อน

• นวดด้วยลูกประคบร้อน

• นวดประคบหินร้อน
  

• นวดด้วยเครื่องนวดไฟฟ้าที่มีระบบทำความร้อน
  

การบำบัดด้วยความร้อนช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
• ช่วยบรรเทาอาการปวดที่บริเวณข้อหรือข้ออักเสบ จะช่วยให้อาการข้อฝืดดีขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งทำให้ผู้ป่วยข้ออักเสบสามารถเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น
• เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ หรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย
• ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน และกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้ผิวดูขาวสว่าง กระจ่างใส และสดชื่นมากยิ่งขึ้น
• ช่วยลดความเครียด และเพิ่มความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจบรรเทาอาการปวดปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยจะช่วยผ่อนคลายอาการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตา

ตัวอย่างอาการที่สามารถบำบัดด้วยความร้อนได้ มีดังนี้

• อาการปวดหลัง ใช้วิธีการประคบร้อน จะช่วยบรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อ โดยหาจุดที่ปวดให้เจอแล้วประคบร้อนบริเวณนั้น เนื่องจากความร้อนจะช่วยให้หลอดเลือดขยาย
• อาการปวดข้อหรือข้ออักเสบ ใช้วิธีประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการข้อฝืดและช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง อาจทำให้ผู้ป่วยข้ออักเสบสามารถเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น
• อาการปวดศีรษะหรือปวดหัวไมเกรน ใช้วิธีประคบร้อนจะช่วยคลายอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อที่คอซึ่งเป็นอีกต้นเหตุของอาการปวดศีรษะ
  
• โรคเอ็นอักเสบเรื้อรัง ใช้วิธีประคบร้อนจะช่วยบรรเทาความฝืดหรือเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นภายหลังจากการอักเสบได้
• บรรเทาอาการทางดวงตา นวดด้วยการประคบร้อนจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณศีรษะ และบรรเทาความเครียด

ข้อห้ามในการใช้ความร้อนในการรักษา
      การรักษาโดยใช้ความร้อนจะไม่สามารถทำได้ในผู้ที่มีอาการบาดเจ็บในระยะเฉียบพลันมีเลือดออก หรือยังคงมีอาการอักเสบอยู่ ซึ่งเราสังเกตได้จาก 3 สัญญาณคือ บวม แดง และร้อน นอกจากนี้การใช้ความร้อนในบริเวณเนื้องอกหรือมะเร็งจะเป็นการเพิ่มการกระจายตัวของมะเร็งอีกด้วย

ผู้ที่ควรระวัง หรือผู้ที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนบำบัดด้วยความร้อน มีดังต่อไปนี้

• ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
• ผู้ที่เป็นผิวหนังอักเสบ
• ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือด
• ผู้ที่เป็นโรคลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
• ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทอย่างโรคเอ็มเอส (Multiple Sclerosis : MS)
• สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบำบัดด้วยความร้อนหรือประคบร้อน
• สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากต้องการอบซาวน่าหรือแช่น้ำร้อน